เคลื่อนทัพบุก แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมฟุตบอลชาติอังกฤษ จัดเตรียมนำผู้ร่วมทีมเปิดศึกสำคัญในกรุงโรม ประเทศอิตาลี ปะทะ ยูเครนศึกยูโร 2020
เคลื่อนทัพบุก แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมฟุตบอลชาติอังกฤษ จัดเตรียมนำผู้ร่วมทีมเปิดศึกสำคัญในกรุงโรม ประเทศอิตาลี ปะทะ ยูเครนศึกยูโร 2020 รอบก่อนรองชนะเลิศ โดยงานนี้จำต้องบอกเลยว่า “สิงโตคำราม” มีภาษีเหนือกว่าคู่แข่งขันออกจะมากมายอย่างยิ่งจริงๆ
ทัพ “ทรี ไลอ้อนส์” เต็มไปด้วยความขมักเขม้น แล้วก็ความอยากที่จะได้แชมป์ทัวร์นาเมนต์นี้ให้ได้ แล้วก็เป็นแชมป์ระดับประเทศหนแรกนับจากที่พวกเขาตั้งตัวเองเองเป็นแชมป์โลกเมื่อปี1966
ความมีชัยเหนือ เยอรมนีทำให้เวลานี้ อังกฤษเต็มไปด้วยความฮึกเหิม ที่สำคัญทางสู่รอบชิงแชมป์ของพวกเขาก็ไม่ได้ลำบาก เนื่องจากแม้สามารถผ่าน ยูเครนไปได้ ในรอบตัดเชือกไม่ว่าจะพบกับ เช็ก หรือ เดนมาร์กในในเวลานี้คงจะต่อต้านทางพลัง “สิงโตคำราม” ยากจริงๆ
ผู้ใดกันจะได้ลงมาแทน ซาก้า จำเป็นต้องพูดว่าเป็นข่าวร้าย สำหรับอังกฤษ ด้วยเหตุว่า บูกาโย่ ซาก้า มีปัญหาบาดเจ็บในตอนฝึกซ้อมกับทีม งานนี้ เซาธ์เกต จำเป็นต้องรีบหาทางปรับปรุงแก้ไขเป็นการด่วน
แม้กระนั้นด้วยขุมกำลังในเกมรุกที่มีอยู่ในมือคงจะทำให้เขาสามารถจับคนลงไปแทนได้อย่างไม่ยากเย็น หาก ซาก้า ลงในสนามไม่ได้จริงๆงานนี้ตัวเลือกเกมรุกทางฝั่งขวา เซาธ์เกต บางทีอาจตกลงใจใช้งาน เจดอน ซานโช่ ลงสู่สนามเป็นตัวจริงก็ได้
เนื่องจากว่าหากมองเรื่องศักยภาพรวมทั้งไม่มีความแตกต่างกับ ดาวรุ่งอาร์เซน่อล แถมมีดีตรงที่ประสบการณ์บนเวทียุโรปมีเยอะแยะกว่า อย่างไรก็ดีหากให้ทายใจดวงใจ เซาธ์เกต มีความน่าจะเป็นไปได้สูง
ที่ ฟิล โฟเด้น บางทีอาจจะได้ลงในสนามไปทำเกมทางริมเส้นฝั่งขวา ถึงแม้ว่าฟอร์มของเขาในยูโรยังไม่เปรี้ยงปร้าง แต่ว่าก็คงจะป่วนปั่นเกมรับของยูเครน ได้เยอะพอสมควร กระนั้น เมสัน เมาท์ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่นายใหญ่กองทัพ “สิงโตคำราม”
จะเลือกใช้งานเพราะเหตุว่าเขาติดต่อประสานงานก้าวหน้าตอนที่เล่นร่วมกับ ราฮีม สเตอร์ลิง และก็ แฮร์รี่ เคน ส่วน แจ็ค กรีลิช ที่คนจำนวนไม่น้อยเชียร์ให้ลงตัวจริง มั่นใจว่า เซาธ์เกต อาจต้องการเก็บเขาเอาไว้เป็นไพ่เด็ดในยามฉุกเฉินมากยิ่งกว่า
เนื่องจากศักยภาพของเขาสามารถช่วยในการเปลี่ยนเกมได้โดยทันทีเมื่อลงไปในสนาม เกมรับวินิจฉัยชัยชนะ จำเป็นต้องเห็นด้วยว่าเกมรับของอังกฤษ ตอนนี้อดทนมากมายๆผลงานไม่เสียประตูตั้งแต่เริ่มทัวร์นาเมนต์
จนกระทั่งในขณะนี้เป็นบทพิสูจน์ให้มองเห็นแล้วว่า การที่จะเจาะเข้าไปทำแต้มพวกเขามันไม่ใช่เป็นเรื่องง่ายๆ เอาซะเลย ระบบแนวรับ 3 ตัวที่เซาธ์เกตนำมาใช้ในเกมตี เยอรมนีจำเป็นต้องพูดว่าพอดีอย่างยิ่งอีกทั้ง แฮร์รี่ แม็กไกวร์,
จอห์น สโตนส์ แล้วก็ ไคล์ วอล์คเกอร์ ปฏิบัติหน้าที่ได้เป็นอย่างดีสามารถปิดเกมบุกของ “อินทรีเหล็ก” ได้หมด ช่วงเวลาเดียวกันสองฟูลแบ็กอย่าง คีแรน ทริปเปียร์ กับ ลุค ชอว์ สามารถช่วยเพิ่มเกมรุกได้ดีเยี่ยม
เคลื่อนทัพบุก นอกเหนือจากนี้แนวทางการทำหน้าที่เกมรับก็ไม่มีมีข้อบกพร่อง ด้วยเหตุดังกล่าวนี่เป็นแผงหลังที่จำต้องกล่าวว่าพอดีอย่างที่สุดสำหรับอังกฤษ ในขณะนี้ ยังไม่หมดเท่านั้น จอร์แดน พิคฟอร์ด ก็อยู่ในตอนท็อปฟอร์มสุดๆ ข่าวบอลพรีเมียร์ลีก
ความมีชัยเหนือ เยอรมนีทำให้เวลานี้ อังกฤษเต็มไปด้วยความฮึกเหิม
เคลื่อนทัพบุก เขาพิสูจน์ให้มองเห็นแล้วว่าเพราะเหตุไรถึงได้รับเลือกให้เป็นมือ 1 ของอังกฤษ การเก็บคลีนชีต 4 เกมต่อเนื่องกันเป็นเครื่องการันตีประสิทธิภาพของนายทวารเอฟเวอร์ตันอย่างแท้จริง ด้วยเหตุดังกล่าวในเกมกับยูเครน มีความน่าจะเป็นสูง
ที่ เซาธ์เกต คงจะเลือกใช้แผนข้างหลัง 3 ตัวพร้อมด้วยมีวิงตัวบุกปีกซ้ายขวาคอยวิ่งขึ้นลง แต่ว่าก็ไม่แน่เนื่องจากยูเครน ไม่ใช่คู่ปรปักษ์ที่แข็งแกร่งราวกับ เยอรมนีนั่นอาจจะเป็นผลให้ผู้จัดการทีมเลือดผู้ดี ปรับมาใช้แนวรับ 4 ตัว
เพื่อจะได้มีพื้นที่เหลือในแผงกองกลางจะได้ส่งมิดฟิลด์ตัวประดิษฐ์เกมลงไปเพิ่ม เพื่อช่องทางสำหรับเพื่อการครอบครองเกมที่เหนือกว่าคู่ปรปักษ์ เคน-สเตอร์ลิง ยิ่งเล่นยิ่งมั่นอกมั่นใจ
สำหรับปัจจุบันนี้ อังกฤษคงจะไม่มีแนวรุกใครที่คู่ควรลงตัวจริงมากไปกว่า แฮร์รี่ เคน กับ ราฮีม สเตอร์ลิง เนื่องจากสี่ประตูที่กองทัพ “สิงโตคำราม” ทำเป็นในทัวร์นาเมนต์นี้มาจากพวกเขาสองคนแค่นั้น
สตาร์แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เหมาไปแล้ว 3 ประตู ในเวลาที่ กัปตันทีมชาติอังกฤษ พึ่งเปิดซิงประตูแรกในยูโร 2020 แมตช์สอย เยอรมนี แม้กระนั้นโน่นก็ชี้ให้เห็นว่าเขากำลังกลับมามีความเชื่อมั่นสำหรับการสอยตาข่ายคู่ต่อสู้
อันที่จริงแล้ว เคน ไม่ใช่แค่ปฏิบัติหน้าที่เป็นหน้าเป้าแค่นั้น เนื่องจากว่านักฟุตบอลชอบคอยเชื่อมเกมรุก และก็ยังพยายามหาช่องเพื่อทำประตู อย่างไรก็ดีแม้กลุ่มกำเนิดมีปัญหากระสุนด้าน เซาธ์เกต ก็ยังมีออปชั่นอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ โดมินิค คัลเวิร์ต-ลูวิน ลงมาได้
เวลาเดียวกัน อังกฤษก็ห้ามประมาทเกมรุกของยูเครน ด้วยเหตุว่ายิงได้ถึง 6 ประตูจาก 4 เกมก่อนหน้าที่ผ่านมา แต่ว่าสิ่งที่ทีมของผู้จัดการทีมฟุตบอลอันเดร เชฟศาสนาเชนโก้เก๋ จำต้องลุ้นหนักก็คือภาวะความฟิตของ อันเดร ยาร์โมเลนโก้ หัวหอกจอมเก๋า
ข้างหลังมีลักษณะเหนื่อยจากผู้กระทำรำศึกจนกระทั่งวินาทีท้ายที่สุดของการขยายเวลาพิเศษชนะ สวีเดน สภาพร่างกายลำแข้งยูเครน เรื่องความรู้ความเข้าใจแล้วก็ขุมกำลังของยูเครน บางทีก็อาจจะด้อยกว่าอังกฤษ อยู่พอเหมาะพอควรตอนนี้
แต่เรื่องที่น่าวิตกวังวลมากกว่าก็คือสภาพความฟิตของนักฟุตบอล เนื่องจากพวกเขากรำศึกหนักในเกมกับ สวีเดน เมื่อวันอังคารก่อนหน้านี้ ในแมตช์นั้น ยูเครนห่ำหั่นกับกองทัพ “ไวกิ้ง” แบบหมดแม็กซ์ไม่มีเหลือพลัง
จนตราบเท่านาทีในที่สุดของการยืดเวลาพิเศษถึงมาได้ประตูชัยจาก อาร์เตม โดฟบิค ซึ่งแน่นอนว่าสภาพร่างกายของพวกเขาอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีปัญหาในเกมเจอ อังกฤษอย่าลืมว่าแมตช์นี้จะต้องเดินทางไปแข่งขันที่ประเทศอิตาลี
ด้วยเหตุผลดังกล่าวยิ่งทำให้นักฟุตบอลยูเครนอ่อนล้าเข้าไปอีก สวนกับอังกฤษ ที่สู้กับเยอรมนี จบในเวลา 90 นาทีทำให้พวกเขาได้พักร่างกายอย่างมาก ลองคิดดูถ้าเกิดเกมนี้จำเป็นต้องไม่จบสิ้นไปถึงช่วงทดเวลา 30นาที
นักฟุตบอลยูเครนจะกรอบมากมายขนาดนั้น ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาจะต้องทำให้ได้ก็คือฮึดเต็มสูบในตอน 90 นาทีและก็เอาชนะ “สิงโตคำราม” ให้ได้ ทางสู่รอบชิงเปิดกว้าง แม้อังกฤษ สามารถชนะ ยูเครนที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี ในวันเสาร์ที่ 3 เดือนกรกฎาคมได้
โน่นจะก่อให้พวกเขาได้กลับมาเล่นในรอบตัดเชือกที่สนามเวมบลีย์อีกที แล้วก็นับว่าเป็นเรื่องเป็นต่อเป็นอย่างมากเพราะว่า “สิงโตคำราม” ทำผลงานได้อย่างดียิ่งเมื่อเล่นในบ้านตนเอง
พลังของแฟนบอลทัพ “ทรี ไลอ้อนส์” ที่มุ่งหมายจะได้มองเห็น “ฟุตบอล’ส คัมมิ่ง โฮม!” (Football’s coming home!) หรือ “การได้มองเห็น อังกฤษคว้าแชมป์” มันเต็มไปด้วยความรุ่มร้อน แล้วก็โน่นทำให้นายทัพเมืองผู้ดีมีพลังฮึกเหิมเป็นสองเท่า ซึ่งดูได้จากเกมที่พวกเขาปราบ เยอรมนีมาได้อย่างยอดเยี่ยม
หากทะลุเข้ารอบรองชนะเลิศได้จริงๆจำเป็นต้องบอกเลยว่าคู่แข่งของอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็น สาธารณรัฐเช็ก หรือ เดนมาร์ก อีกทั้งชื่อชั้นรวมทั้งขุมกำลังด้อยกว่าพวกเขาเยอะพอควร ประกอบกับการมีกองเชียร์ในบ้านสนับสนุน ยิ่งทำให้อังกฤษ เหนือกว่าเยอะขึ้นเรื่อยๆ
นี่ไม่ใช่การอวย อังกฤษมากมายจนกระทั่งเกินข้อเท็จจริง แต่ว่าด้วยศักยภาพของพวกเขาในขณะนี้ ยูเครนอาจจะยากจะยับยั้งได้ ขณะเดียวกับในรอบตัดเชือกก็ไม่น่าจะเกินกำลัง ดังนั้นอาจไม่ใช่เรื่องไม่ถูกถ้าจะมองเห็น “สิงโตคำราม” ยืนสูงเด่นในเกมนัดหมายชิงแชมป์ ศึกยูโร 2020 แต่ว่าจะไปถึงฝั่งฝันหรือไม่ จะต้องไปถาม สเปน หรือ อิตาลี เอาเอง !!! เก่งจริงต้องพิสูจน์
